doomovie ดูหนังออนไลน์ หนัง2022 หนังใหม่ ดูหนังออนไลน์ฟรี
doomovie The 7 Lives Of Lea รายละเอียดของซีรีส์จะเล่าเกี่ยวกับผู้แสดงที่ชื่อว่า เว็บไซต์ดูหนังฟรี ลีอา เด็กหญิงวัย 17 ที่กำลังสิ้นชีวิตตนเองด้วยการเสพยาเกินขนาด แม้กระนั้นคุณดันไปพบกระดูกของคนๆหนึ่งเข้าเสียก่อน แล้วก็ภายหลังวันที่คุณเจอศพปัญหาเรื่องราวพิลึกก็เริ่มถั่งโถมเข้ามาหาตัวของลีอามากขึ้นเรื่อยเจ้าตัวพบว่าเวลาใดที่หลับไป ก็จะตื่นมาในร่างของคน 6 คนเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาภายในช่วงเวลา 7 วัน
รวมร่างหลักของตนเองก็จะเป็น 7 ชีวิตตามชื่อ แล้วก็ที่สำคัญทุกร่างที่คุณตื่นมานั้นมีส่วนเกี่ยวกับการเสียชีวิตของศพที่เจ้าตัวพบในตอนแรก ศพของเด็กวัยหนุ่มวัย 17 ที่ชื่อว่า อิชมาเอล ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงนี้มันทำให้ตัวของลีอาเริ่มมีมุมมองชีวิตที่แปรไป ความนึกคิดที่ต้องการจะทราบถึงมูลเหตุการเสียชีวิตของอิชมาเอลทำให้คุณเจอกับข้อเท็จจริงที่ออกจะเสียใจไม่น้อย
หนังฟรี ซีรีส์ Netflix ประเทศฝรั่งเศส 7 ตอนสุดท้ายแนววัยรุ่นสอบปากคำไซไฟย้อนเวลา doomovie ที่พาผู้ชมไปพบกับการสิงร่างของนางเอกสู่คน 7 คน เพื่อไขปัญหาการเสียชีวิตของศพลึกลับกับความลับต่างๆในอดีตกาลที่เชื่อมโยงมาถึงชีวิตครอบครัวของคุณในขณะนี้ พร้อมค้นหาตัวตนทางชีวิตของคุณไปพร้อมด้วย
ลีอา เด็กหญิงวัยรุ่นที่ครอบครัวมีปัญหา ตัวคุณก็ไม่มีจุดหมายในชีวิต หนังใหม่ จนถึงคุณได้ไปพบศพกระดูกชายหนุ่มปัญหาที่ตายมานานแล้ว 30 ปี จากนั้นเป็นต้นมาทุกคืนที่คุณหลับคุณจะย้อนอดีตกลับไปยังสมัย 90 ในร่างบุคคลอื่น ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตของศพปัญหาที่คุณพบเห็น โน่นทำให้คุณเริ่มมีเป้าหมายในชีวิตด้วยการเริ่มสอบสวนหาต้นสายปลายเหตุและก็ยับยั้งการเสียชีวิตของผู้ชายปัญหาคนนั้น
ดูหนัง ซีรีส์ประเทศฝรั่งเศสหัวข้อนี้ผลิตขึ้นจากนิยายวัยรุ่น มีทั้งผอง 7 ตอนตามชื่อลี 7 ชีวิตเลย เกิดเรื่องราว 1 ตอนต่อ 1 ผู้ที่นางเอกเอกได้ไปสิงร่างทุกคืนที่คุณหลับไป ซึ่งวันเวลาในเรื่องจะต่อเนื่องกันไป 7 วันด้วย โดยนางเอกหลับช่วงเวลากลางคืน ตื่นมาในสมัยก่อนช่วงเวลาเช้า ดำเนินชีวิตสลับไปๆมาๆในร่างธรรมดาเดี๋ยวนี้กับอดีตกาลที่เป็นคนอื่นๆ เพื่อสอบปากคำไขคดีการเสียชีวิตลึกลับของชายหนุ่มปัญหา
“อิชมาเอล” ที่ช่วงแรกเลยคุณก็จะได้สิงร่างเขา ดูหนังผ่านเน็ต แล้วก็มาล่วงรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทกับบิดามารดาของคุณสำหรับเพื่อการรวมกลุ่มดนตรีร่วมกัน ทำให้การย้อนอดีตของคุณได้กลับไปบิดามารดาตอนวัยรุ่น และผองเพื่อนพ้องบิดามารดาในสถานศึกษาที่ล้วนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตของอิชมาเอลได้ทั้งหมด
The 7 Lives Of Leaเค้าโครงเรื่องย้อนเวลาไปพบบิดามารดาตนเองบางครั้งก็อาจจะไม่ใหม่สักครั้งเดียว แม้กระนั้นสิ่งที่ 7 ลีอาทำให้ต่างกันได้เก๋ๆเป็นการย้อนเวลาแบบสิงร่างคนนี่แหละ ซึ่งไม่ใช่แค่การเข้าไปสิงแทนเพื่อเอาร่างนี้ไปตรวจสอบแสวงหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว แม้กระนั้นได้เข้าไปตรวจสอบเรื่องราวชีวิตอีกด้านที่บุคคลภายนอกไม่ล่วงรู้ อย่าง ชายหนุ่มเกกมะเหรกเกเรประจำสถานศึกษาที่บิดาใช้กำลังกับเขา
หัวหน้าสาวเย้ายวนของสถานศึกษาที่บ้านอนาถาสุดๆซึ่งการได้สวมร่างนี้ทำให้ลีอาได้เห็นข้อเท็จจริงอีกด้านจากมุมมองที่ไม่เหมือนกันไปในตอนแรกที่ลีอาได้มองเห็นคนนี้จากร่างอื่น แปลงเป็นเรื่องมีสองด้าน อะไรที่มองเห็นในตอนแรก พอลีอาได้สิงร่างก็จะได้ทราบความเป็นจริงอีกด้านที่พวกเขาปกปิด และก็ทำให้ลีอาใช้ร่างนี้ 24 ชั่วโมงเพื่อปรับแก้ชีวิตที่บกพร่องของคนๆนั้นไปด้วย
แม้ว่าจะเป็นเพียงแต่เรื่องกล้วยๆๆใน 24 ชั่วโมง แม้กระนั้นก็มีผลต่อทางชีวิตในอนาคตด้านหน้า ซึ่งพอลีอาตื่นคุณก็จะได้เจอกับตัวตนของคนภายในสมัยก่อนที่คุณสิงร่างแล้วชีวิตแปรไปด้วย (เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆทุกคนในชุมชนรู้จักกันหมด) ซึ่งจุดนี้เองทำให้เรือ่งนี้มีไม่เหมือนกันรวมทั้งแทรกสอดปัญหาวัยรุ่นจากสมัยอดีตกาลมาเดี๋ยวนี้ไว้หลายแบบ ในสมัย 90 บางสิ่งบางอย่างบางครั้งก็อาจจะมองธรรมดา
แต่ว่าในขณะนี้คนรู้เรื่องสิทธิความเสมอภาคต่างๆมากเพิ่มขึ้น ทำให้ลีอาเสมือนผู้แทนวัยรุ่นในตอนนี้ที่ได้ได้โอกาสเข้าไปปรับปรุงตรกะความผิดพลาดสติไม่ดีในอดีตกาลให้หายไปด้วย ซึ่งทำให้เรื่องมองนำสมัยมากมายแม้ว่าจะย้อนเวลากลับมากกว่า 80% ของเรื่องก็ตาม
ถึงลีอาจะเป็นตัวจัดการกับปัญหาชีวิตในอดีตกาลให้แต่ละร่าง doomovie แม้กระนั้นเมนเรื่องหลักจริงๆเป็นการเสาะหาว่ากำเนิดอะไรสังกัดอิชมาเอล ซึ่งเรื่องก็แทรกสอดการสอบปากคำไว้ระหว่างนั้นด้วย โดยทุกคนที่ลีอาสิงร่างจะมีส่วนเกี่ยวข้องบางสิ่งบางอย่างให้ลีได้เค้าเงื่อนสะกดรอยไปเรื่อยรวมทั้งตื่นมาสืบในตอนนี้ข้างหลังเวลาผ่านไป 30 ปีอีกครั้ง เรื่องราวส่วนนี้จะไม่ใช่แนวไต่สวนเข้มๆอะไรมากมาย
เนื่องจากตัวเรื่องลีอาเป็นเด็กหญิงวัยรุ่นใช้การไม่ได้คนหนึ่งแค่นั้น โดยคีย์หลักของเรื่องก็คือการเกิดวัตถุประสงค์ของชีวิตที่ลีอาไม่เคยมีมาก่อน เมื่อคุณเริ่มสอบสวนก็เริ่มหมกหมุ่น มีเพียงแต่เพื่อนฝูงสาวขาทุพพลภาพผู้เดียวที่ฟังหัวข้อนี้แล้วเชื่อคุณรอช่วยไต่สวนด้วยอีกแรง ซึ่งหลักสำคัญวัตถุประสงค์ชีวิตนี้จะถูกเชื่อมโยงกลับไปยังสมัยก่อนถึงตัวบิดามารดาของคุณด้วย ที่เวลานั้นยังเป็นวัยรุ่นบ้าดนตรีมิได้มีอนาคตกันสักเท่าไหร่แบบเดียวกัน ซึ่งเงื่อนการเกิดจุดมุ่งหมายชีวิตนี้ถูกผูกเรื่องราวกลับมาปัจจุบันนี้เมื่อลีอามองเห็นบิดามารดาในอดีตกาลห่วยๆแม้กระนั้นตอนนี้กลับมาด่าทอว่าคุณเรื่องเดียวกัน ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวที่มีอยู่แล้วเริ่มแตกกันมากขึ้น
โครงเรื่องของซีรีส์แปลกใหม่ไหม บอกกันตามเกณฑ์มันมิได้มีความแปลกใหม่อะไรเยอะแยะเลย เรื่องราวราวๆนี้ผู้ชมเองก็เคยผ่านตากันมาเยอะแยะไม่ว่าจะเกิดเรื่อง ดูหนัง The 100th Love with You หรือเรื่อง The Butterfly Effect ที่บรรดาหนังกลุ่มนี้มีความคล้ายคลึงกันเป็นการพยายามปรับปรุงแก้ไขเรื่องราวในอดีตกาลโดยไม่ต้องสนกฎข้อบังคับหรือเหตุผลรองรับเรื่องย้อนเวลาอะไรล้นหลามเน้น
ย้ำความสนุกสนานแล้วก็เฉลยคำตอบหักมุมผู้ชมซะเป็นส่วนมาก และก็ ประเด็นนี้ก็ยอดเยี่ยมในแนวนั้นที่ตลอดทั้ง 7 ตอนจะไม่มีการออกมาเล่าถึงแนวคิดย้อนเวลาไปสิงร่างคนอื่นๆอะไรทั้งหมด คนไหนกันที่อยากทราบว่าลีอาทำอย่างงั้นได้ยังไง doomovie คุณจะเจอกับการเช็ดกซีรีส์ห้อยทิ้งเอาไว้ในอากาศอย่างแน่แท้ แม้กระนั้นมันก็มีจุดเด่นตรงที่ความเข้มข้นของเค้าเรื่องจะเป็นการแสวงหาปัจจัยการเสียชีวิตของ อิชมาเอล แล้วก็ความลับอันดำมิดหมีที่แม้กระทั้งบิดามารดาของลีอาเองก็เคยอยู่ในเรื่องเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมาเช่นกัน
อีกหนึ่งความน่าดึงดูดใจเป็นการไปอยู่ในร่างของคน 6 คน มันทำให้ลีอาจำเป็นต้องมานะเข้าใจในเรื่องท่าทางของคนนั้นๆเนื่องจากคุณมิได้ตื่นมาในร่างหญิงเพียงอย่างเดียว มีร่างของเพศชายหรือแม้กระทั้งร่างของผู้ที่ตายมาแล้ว 30 ปี อย่างอิชมาเอลอีกด้วยที่ลีอาจำเป็นต้องมานะปรับพฤติกรรมให้กับร่างคนนั้นให้ได้ซึ่งตัวเรื่องได้ขมวดเอาเงื่อนนี้เข้ามารวมกับเรื่องย้อนเวลาไต่สวนเจริญมากมาย เปลี่ยนเป็นจุดกลับทำให้เรื่องราวทั้งสิ้นที่ลีอาย้อนไปในสมัยก่อนบางครั้งอาจจะแปลงเป็นการมีผลมาทำให้ปัจจุบันนี้ครอบครัวคุณเป็นแบบงี้
หรือคุณจะต้องเลือกทางเท้าที่ต่างออกไปเพื่อรักษาครอบครัวไว้ แต่ว่าโน่นก็อาจจะเป็นผลให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงและก็มีผลเสียมาถึงตัวคุณเองได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งตอน 7 ของหัวข้อนี้เป็นแอบตลึงกับเงื่อนสำคัญของเรื่องที่ทายใจทางฉากจบได้ยาก รวมทั้งทำให้ฉากสิ้นเรื่องนี้มีดีชักชวนให้จำได้เลยเช่นเดียวกัน
และก็เนื่องจากว่าประเด็นนี้เป็นการย้อนเวลาแล้วนักแสดงเกี่ยวพันกับวงดนตรี ทำให้เรื่องมีเพลงไพเราะเพราะพริ้งๆจากยุคนั้นมาประกอบแซมๆเชิญให้นึกถึงพอใช้ดีพอควร อย่าง Kiss me ของวง Sixpence None The Richer ผ่านเครื่องเล่นวอล์คแมนที่วัยรุ่นในสมัยนั้นควรจะมีกัน รวมทั้งมุกจากอดีตกาลนิดๆหน่อยๆที่ลีอาในขณะนี้จำต้องกลับไปพบอะไรเก่าๆเหล่านี้เป็นกิมมิคแทรกเล็กๆในระหว่างย้อนเวลา
จุดสำคัญของผู้แสดงในเรื่อง มันเสมือนการบอกเป็นนัยๆว่าผู้ชมเองจำเป็นต้องบากบั่นตั้งมั่นมองเครื่องปรับอากาศไทม์ของแต่ละร่างให้ดีๆที่มันจะเชื่อมถึงกันเสมือนเป็นตัวต่อ 7 ชิ้นประกอบถูกกันเพื่อนำไปสู่องก์ลำดับที่สามของซีรีส์หรือเฉลยคำตอบในส่วนท้ายนั้นเอง
ซึ่งส่วนตัวคนเขียนออกจะถูกใจนักแสดงของ ลีอา กับ อิชมาเอล เป็นพิเศษ doomovie ที่ดาราหนังออกจะถ่ายทอดเรื่องราวทั้งสองออกมาก้าวหน้าเคมีที่มันมองเหมาะ ถึงแม้ว่าในเรื่องทั้งสองจะอยู่กันคนละไทม์ไลน์เวลาแต่ว่าพวกเขาสองคนก็มีการสื่อถึงกันอยู่เสมอ กล่าวได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข้อความสำคัญที่ให้รสความโรแมนติก ซึ้งๆในเรื่องได้ไม่น้อย ส่วนตัวละครคนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับร่างอีกทั้ง 6 ใน
อดีตกาลก็แจ่มแจ้งว่าจะมีเครื่องปรับอากาศไทม์ที่ลดลงมาน้อยอย่างเช่น ผู้แสดงเพื่อนฝูงอย่าง โรแมน ที่รอช่วยเหลือลีอาอยู่ตลอด กระทั่งบางครั้งนักเขียนเองก็แอบเห็นอกเห็นใจโรแมนแบบเดียวกัน ที่คุณนั้นถูกเซ็ตคาแรคเตอร์มาให้เป็นตัวละครที่เดินมิได้ จำเป็นต้องใช้วีลแชร์ประคองตัวตลอด กระทั่งบางครั้งบางคราวจำต้องไปพบความยากลำบากจากความดันทุรังของลีอา
Antebellum แอนเทเบลลัม หลอน ย้อน โลก
เวโรนิกา เฮนลีย์ (จาเนลล์ โมเน) นักประพันธ์โด่งดัง รวมทั้งเป็นนักสู้เพื่อสิทธิของคนดำ ที่วันหนึ่งคุณก็พบว่าตนเองย้อนกลับไปอยู่ในสมัยสงครามกลางเมือง เป็นคนงานในฟาร์มฝ้ายของนิคมทหารข้างใต้ที่ดูถูกผิวเต็มที่ เวลาที่ตัวคุณเองก็เปลี่ยนเป็นนางบำเรอของผู้บังคับบัญชากองทัพ แต่ว่าในขณะเดียวกัน คุณก็คือความปรารถนาเดียวของเหล่าคนดำตรงนี้ ที่ถูกข่มขี่เหมือนกับไม่ใช่มนุษย์ ที่นอกเหนือจากการที่จะต้องหาทางช่วยเหลือทุกคนให้ได้แล้ว เฮนลีย์ที่ถูกตั้งชื่อเสียงเรียงนามให้ใหม่เป็นอีเด็น ยังต้องหาคำตอบของเรื่องที่เกิดขึ้นในคราวนี้
เวโรนิก้าเป็นนักขยับเขยื้อนด้านสังคมที่ต่อสู้ในเรื่องของสิทธิของชาวผิวสี เพศ รวมทั้งการเช็ดกกดขี่ของคนดำในประเทศอเมริกา คุณส่งผลงานหนังสือในระดับเบสเซลเลอร์ ความรู้ความเข้าใจรอบด้านของคุณในฐานะหญิงเก่ง ที่รอดูแลผัวและก็ลูกน้อยแบบไม่มีมีข้อบกพร่อง จวบจนกระทั่งวันหนึ่งคุณมีงานที่จะจำเป็นต้องบินไปนำเสนอพิเศษที่เมืองนิวออร์ลีนส์ในตรงนั้นเองคุณเริ่มสัมผัสได้ถึงเหตุแปลกและก็การเช็ดกคุกคามอปิ้งลึกลับจากหญิงคนหนึ่งที่ชื่ออลิซาเบธ (จีน่า มาโลน) ผู้อ้างตัวว่าเป็นเอเจนซีสำหรับในการหางานที่เริ่มเข้ามาในชีวิตของเวโรนิก้าเพื่อเป้าหมายอะไรบางอย่าง
ผลงานดูแลของ จอร์แดน พีลผลงานที่ยกหน้าด้วยกลุ่มผลิตขึ้นมาจาก Get Out และก็ Us ของผู้กำกับ จอร์แดน พีล ซึ่งเด่นในเรื่องสไตล์ความหลอนแบบดราม่าจิตวิทยาผสมความสยดสยองแบบหนาวสันหลังด้วยเรื่องราวเหนือจินตนาการ ซึ่งมักดึงความหวาดกลัวในใจคนออกมาโดยยิ่งไปกว่านั้นจากกรุ๊ปของชาวแอฟริกาอเมริกันที่ถูกความแตกต่างทางสีผิวในอเมริกาโจมตีมาเป็นร้อยๆปีจนกระทั่งตอนนี้กับกระแส Black Lives Matter ซึ่ง Antebellum ก็ใช้ไอเดียการดึงความหวาดกลัวในใจคนดำไม่ว่าจะกี่สมัยต่อกี่สมัยมาใช้ได้อย่างเข้มข้นทีเดียว
ดังนี้เป็นฝีมือการควบคุมแล้วก็จินตนาการจากคู่ขาผู้กำกับมือใหม่นามว่า พบราร์ด บุช และก็ คริสโตเฟอร์ เรนซ์ ที่ผ่านงานสารคดี ประชาสัมพันธ์แล้วก็วิดีโอสั้นมาจำนวนหลายชิ้นก่อนได้รับความเชื่อใจทำหนังใหญ่เรื่องแรกนี้ แม้กระนั้นกลุ่มช่วยเหลือเองก็เข้มแข็งพอให้สองผู้กำกับเล่นเพลงฝีแปรงได้ตามอยากได้ ไม่ว่าจะเป็น เปโดร ลัค ผู้กำกับภาพที่เอามาจากหนัง Don’t Breathe (2016) รวมทั้ง The Girl in the Spider’s Web (2018) มาใช้ประสบการณ์ภาพลวงตาเยือกที่เปิดมาด้วยลองเทคโชว์ความเก่าแก่ได้น่าดึงดูดทีเดียว แล้วก็การปลดปล่อยให้ผู้กำกับได้ปล่อยของเต็มกำลังเนื่องจากว่าไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงกลุ่มหนุนก้ทำให้หนังประเด็นนี้มีของเด็ดของดีให้จับใจได้ไม่น้อยเลย
การบรรลุผลของหนังอีกประการจำเป็นต้องชูให้เดอะหาม จาแนลล์ โมเน ศิลปินสาวที่หน้ามีเสน่ห์ไม่น้อย จากหนังอย่าง Moonlight รวมทั้ง Hidden Figure ที่สะท้อนความหวาดกลัว ความเก่งกล้า doomovie และก็การซ่อนเร้นความอับจนหนทางไว้ได้อย่างเชิญอินในทุกซีน ส่วนดาราหนังประกอบผู้อื่นไม่ใช่ว่าไม่ดี เนื่องจากหนุนเรื่องได้น่าดึงดูดโดยยิ่งไปกว่านั้นเหล่าตัวร้ายทั้งหลายแหล่เล่นได้น่าชังน้ำหน้า ตั้งแต่แก่จนกระทั่งเด็กอย่างยิ่งจริงๆ แต่ว่าภาพรวมแต่คงจะจำต้องชูให้หนังประเด็นนี้เป็นหนังของ โมเน จริงๆโน่นล่ะ
ตัวหนังนำคำที่ว่า “สมัยก่อนมันไม่เคยตาย มันไม่ใช่อดีตกาลเสียด้วยซ้ำ” ของเช็กสเปียร์มายั่วล้อได้น่าดึงดูด ซึ่งจริงๆก็ค่อนข้างจะแปลกที่แปลไทยแบบนี้ แม้กระนั้นท้ายที่สุดเมื่อดูหนังจบมาทวนคำกล่าวช่วงต้นของหนังนี้ก็ทำเอาตบหัวเข่าฉาดเลยเช่นกัน ว่าไปหนังมีความคล้ายคลึงหนังเรื่องหนึ่งซึ่งถ้าเกิดบอกชื่อไปก็จะสปอยล์ตัวหนังนี้ในทันที สรุปว่าสองผุ้ดูแลเอาไอเดียประเด็นนั้นมาปั่นเรื่องความหวาดกลัวของผิวสีได้เฉียบคมมากมาย บทมีความเหลื่อมล้ำสั่นประสาทอยู่เสมอ
ส่วนประกอบที่ดีไซน์ไว้ให้มันดำเนินการเสร็จ จำต้องเอื้อเฟื้อเวลากว่าครึ่งชั่วโมงแรกให้กับการปูพื้นดราม่า จนกระทั่งพวกเราสงสัยว่า เอ่ ที่มองในแบบอย่างเรื่องเหนือธรรมชาติย้อนอดีตมันมีอยู่จริงๆหรือเพียงแค่หน้าหนังหลอกพวกเราอีกแล้ว แต่ท้ายที่สุดหนังก็ใช้ประโยชน์จากครึ่งชั่วโมงแรกได้ชะงัด เป็นเสมือนการดู One Cut of the Dead ที่ช่วงหลังเฉลยคำตอบแล้วบางทีอาจไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวฮา
ถ้าแม้กระนั้นเป็นความสยดสยอง ระทด อย่างไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์เคยปฏิบัติกับมนุษย์ได้เพียงนี้เลยหรือ ความร้ายแรงนั้นถูกเห็นด้วยในสมัยก่อนมากยิ่งกว่าเดี๋ยวนี้ได้ใช่หรือ แล้วก็ลบล้างความโรแมนติกในบทละครอย่าง ทวิโลก doomovie ไปแบบทั้งหมด ว่าในโลกข้อเท็จจริงมณีจันทร์ย้อนเวลาไปอาจจะเปลี่ยนเป็นข้ารับใช้ และก็บทหวานของคุณพระอาจแปลงเป็นแส้ฟาดและก็กระสุนปืนแทน
ในทางของความตื่นเต้นสยองขวัญนั้น Antebellum จัดได้ว่าแทบไม่มีความรู้สึกแบบงั้นอย่างสิ้นเชิง แต่ว่าในทางของใจความสำคัญเรื่องดราม่าระหว่างผิวสีนั้น หนังจัดได้ว่าทำเป็นเข้มข้นและก็ปิดบังร่องรอยที่ก่อให้เกิดช่วงที่การหักมุมได้อย่างแนบเนียน ต้นเหตุหนึ่งคงจะจำเป็นต้องพูดว่าหนังเลือกใช้วิธีทางภาพยนตร์อย่าง “การตัดต่อ” เอามาหลอกผู้ชมได้อย่างเฉลียวฉลาด แล้วก็บ่อยมากหนังก็มานะเสนอแนะผู้ชมด้วยไปว่านี่เป็นหนังแนว “การกลับชาติมากำเนิด” หรือไม่ เช่นการวัวลสอัพรอยรอยแผลจากการโดนตีตราของเอเดนแล้วก็เสนอลักษณะของการปวดข้างหลังในจุดเดียวกันของเวโรนิก้า ฯลฯ
หนังโคตรน่าดู ตั้งปัญหาเยอะแยะ รวมทั้งที่สำคัญมิได้ปรัชญาคะแม้กระนั้นมอบความสนุกสนานให้ผู้ชมสายดราม่าสยดสยองได้มันสุดพะย่ะจ้ะทีเดียวเชียวหนังเล่าแบบสูตรสำเร็จหนังใช้เวลา 40 นาทีแรกสำหรับการฉายถึงชีวิตของชาวผิวสีสำหรับในการถูกคนผิวขาวข่มขี่ บังคับให้เก็บฝ้าย ดำเนินการใช้แรงงานตลอดวัน ห้ามไม่ให้คุยกัน จับกลุ่มกัน หรือมีความสัมพันธ์กัน มีความคิดว่าโลเคชันในเรื่องทำเป็นดีเลยสำหรับในการเลือกสถานที่ย้อนยุคที่ๆทุกคนยังขี่ม้าและก็ใช้รถม้าสำหรับเพื่อการขนสินค้าข้ามเขตเมืองกัน แถมบ้านหรือไร่ก็ยังเหมือนจริงเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่สงสัยว่าหัวข้อนี้มีผีหรือไม่ หัวข้อนี้ไม่มีผีจ้ะ แต่ว่าสิ่งที่หลอนกว่าผีก็คือความนึกคิดคนนี้แหละ
ก่อนจะใช้ 20 นาทีกึ่งกลางเรื่องเป็นการเฉลยคำตอบเงื่อนเรื่องราวทั้งหมดทุกอย่างและก็ 20 นาทีข้างหลังสำหรับเพื่อการหนีแล้วก็เอาชีวิตรอดของผู้แสดงนำที่ตัวหนังออกจะมัน ตื่นเต้น และก็หลอนน่าสยองพอควรเลย doomovie การแสดงของดาราหนังหลักแล้วก็ดาราหนังสมทบก็เป็นธรรมชาติแล้วก็เหมือนจริงมหาศาล แสงสีแสงสว่างเงาส่วนประกอบในเรื่องย้ำไปที่สีมัวซัวมืดๆหน่อยเพื่อสร้างบรรยากาศหลอนๆนิ่งๆไม่น่าเชื่อใจของตัวหนังเองด้วย
Antebellum ก็ไม่ได้มีความแตกต่างไปจากหนังอีกหลายๆเรื่อง ที่เรื่องย่อหรือพล็อตสั้นๆไม่กี่บรรทัดที่ปลดปล่อยออกมาให้ได้รับรู้กัน เป็นอีกหนึ่งกลไกสำหรับเพื่อการหลอกล่อผู้ชม เป็นการเล่นกับการรับทราบของคนเราตั้งแต่พวกเขายังมิได้สัมผัสกับหนัง แล้วพอใช้ดูกันจริงๆทุกๆอย่างที่รับทราบมาก็ไม่ใช่ไหมได้มีเพียงแค่ที่ว่าเอาไว้ ที่ครั้งคราวหนังก็บางทีอาจพาตนเองไปในแนวทางที่ไม่เหมือนกันเลยด้วย
เท่าที่เพียงพอจะบอกได้ ในแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใดก็ช่างที่ยังมิได้ดูและก็คิดจะดู ไม่ถึงกับหมดสนุกเมื่อไปซื้อตั๋วดูหนังหัวข้อนี้ก็คือ หนังมีความเป็นงานลึกลับซับซ้อน ที่ (พากเพียร) เป็นงานตื่นเต้น ซึ่งมีจุดเริ่มคือเรื่องของการดูถูกผิว แล้วคิดการณ์ใหญ่กับผู้ที่อยู่ในฝั่งตรงข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้ที่โด่งดัง ที่ลูกเล่นสำหรับการเล่า อาจทำให้คิดถึงหนังเรื่องหนึ่งของ
เอ็ม ไนท์. ชยามาลาน แล้วที่ยังคลับคลากันอีกก็เป็น หนังมีความเป็นงานดรามามากยิ่งกว่างานตื่นเต้น ที่พากเพียรอย่างมากอย่างที่บอกเอาไว้ แม้กระนั้นก็ทำไม่เสร็จ เมื่อไปวุ่นวายอยู่กับประเด็นการข่มขี่ข้าทาสในไร่ฝ้ายของบรรดาทหารในนิคม จนถึงรู้สึกราวกับกำลังดูหนังแบบ 12 Year a Slave อย่างไรแบบนั้นจนถึงผ่านไปเกินครึ่งเรื่องด้วยมั้ง ที่ผู้ชมได้สัมผัสถึงการเป็นงานที่มีประเด็นบางสิ่งแอบซ่อนเอาไว้
เมื่อหนังเปิดเผยว่า อีเด็นที่ดูอย่างกับว่าเป็นความหวังสำหรับเพื่อการมีชีวิตรอดของข้ารับใช้ทั้งหลายแหล่ เป็นเฮนลีย์ในโลกเดี๋ยวนี้ ซึ่งจุดปริศนาถึงการไปอยู่ในอีกสมัย อีกยุคหนึ่งของคุณขึ้นมา อีกทั้งคุณไปอยู่ที่ตรงนั้นได้ยังไง แล้วก็ผู้ใดกันที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังสถานะการณ์นี้ รวมถึงทางออกออกมาจากสมัยก่อน (?) อันอำมหิต
หนังมีความระทึกใจเป็นงานเป็นการมากขึ้นเรื่อยๆก็หลังจากนี้เป็นต้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปิดเผยใบหน้าของผู้ที่เกี่ยวพันกับอีกทั้งอีเด็นรวมทั้งเฮนลีย์มาครั้งละรายสองราย ที่ให้รู้สึกอย่างกับว่า นอกเหนือจากการที่จะเป็นการเดินทางย้อนเวลาแล้ว เฮนลีย์ไปยังอยู่บนโลกคู่ขนานไปพร้อมเพียงกัน
หนังเผยความเป็นจริงในแบบที่หักมุม มีความเป็นเหตุผลที่เชื่อมโยงกันได้ว่า เป็นได้เช่นไร รวมทั้งเพราะเหตุใดที่นิคมที่นี้ถึงเป็นอย่างที่มองเห็น ซึ่งถ้าเกิดรวมกับพล็อตหรือเรื่องย่อที่ปลดปล่อยออกมาในตอนแรก เห็นได้ชัดว่า หนังตั้งอกตั้งใจหลอกผู้ชมอย่างเอาจริงเอาจัง
เป็นขั้นเป็นตอน แม้ว่าจะเหลือเกินก็ตาม แม้มองดูในด้านนี้ก็จัดว่าทำสำเร็จ แม้กระนั้นก็ไม่ถึงกับทำให้ตบหัวเข่าฉาด ไม่ช็อคหรือตลึงอะไรนัก ทั้งยังเนื่องจากว่ามาคราวหลังหนังบางเรื่องอย่างที่บอก ทั้งยังการเล่าเรื่องที่เอื่อยเฉื่อย จนถึงความแรงของเหตุการณ์กลับตัดทอนมากมายก่ายกอง รวมทั้งไม่รู้จักสึกถึงสัมผัสของงานกระตุกขวัญ เอาเพียงแค่สะดุ้งหรือรู้สึกได้ถึงความหลอน ก็ไม่น่าจะไปถึง
Choose or Die เลือกหรือตาย
เว็บไซต์ดูหนัง สยองขวัญทุนต่ำที่ดึง เอซา บัตเตอร์ฟีลด์ มาขายให้ราวกับตัวนำ แม้กระนั้นไม่ใช่ผู้แสดงนำเป็นเพียงแค่บทสมทบ ฉากสยองขวัญในเรื่องออกแนวหนังคัลท์แปลกๆมากยิ่งกว่าฉากสยดสยองโดยตรง ซึ่งถ้าเกิดคนใดกันหวังฉากเหล่านี้คงจะได้ผิดหวังแน่ๆ แม้กระนั้นถ้าหากเห็นว่าหนังเน้นย้ำขายไอเดียก็จัดว่าเริ่มเข้าใจได้ หนังสั้นมากมายเพียงแค่ชั่วโมงนิดๆจัดว่าพอได้ และจบแบบทิ้งเอาไว้กะทำภาคต่อแจ่มชัด
หนัง Original Netflix เรื่องราวของวิดีโอเกมจากสมัย 80 ที่มีเงินรางวัล 125,000 เหรียญมาล่อ แต่ว่าเกมนี้เปลี่ยนเป็นเกมเปรียบเสมือนจริง เมื่อมันเล่นกับความเป็นความตายในชีวิตจริงของผู้เล่นหนังสยองขวัญของอังกฤษที่มี เอซา บัตเตอร์ฟีลด์ นำแสดง ร่วมกับ Iola Evans ควบคุมโดย Toby Meakins ได้ผลหน้าที่ดูแลคราวแรก เป็น เว็บไซต์ดูหนังฟรี ของ Netflix โดยตรง
จัดว่าเป็นหนังทุนต่ำที่มานะขายไอเดียพิศดารในพล็อตวิดีโอเกมสยองขวัญ ด้วยพล็อตกล้วยๆว่าผู้แสดงนำทั้งสองได้ไปพบวิดีโอเกมยุคสมัย 1980 ที่มีการให้รางวัลผู้เล่นที่สะสางเกมได้ พวกเขาก็เลยเปิดเล่น แต่ว่าแล้วกลายเป็นว่าเกมนี้เล่นเหมือนจริงด้วยการให้เพศผู้เล่นเลือกทำไหมทำ ซึ่งมีผลถึงความเจ็บรวมทั้งความตายของมนุษย์ที่กลายเป็นเหยื่อของเกมนั้น ซึ่งเค้าเรื่องแนวนี้มิได้ใหม่มาก บางทีก็อาจจะคล้ายกับพวกแนวเดอะริงที่เป็นวิดีโอเทปจะต้องสาป แม้กระนั้นประเด็นนี้เป็นเกมแทนเพียงแค่นั้น
หนังฟรี Choose or Die กล่าวถึงเรื่องราวของนิสิตที่กำลังค้นหาโชคเพื่อยกฐานะการดำรงชีวิตให้กับตนเองรวมทั้งคนที่อยู่รอบข้าง ก่อนที่จะคุณจะได้ศึกษาค้นพบเกมคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า ‘เคอร์เซ่อซ่าร์’ เป็นเกมแนวเอาชีวิตรอดสุดคลาสสิกจากในตอนสมัยปี 1980s รวมทั้งเกมนี้ผู้เล่นที่ชนะจะได้รับเงินรางวัลถึง 1 แสนเหรียญ แต่ว่าเมื่อคุณได้ดำตรงเดินหมากไปสู่ห้วงของเกมนี้ เร็วนี้ๆก็ได้ศึกษาค้นพบว่าคุณมิได้เล่นเกมเพื่อเงินรางวัลอีกต่อไป แต่ว่าเปลี่ยนเป็นเล่นเกมเพื่อสังหารให้รอด
เป็นจริงๆคอนเซ็ปต์ของหนังประเด็นนี้ก็เป็นหนังสยองขวัญแนวเดิม ที่มิได้มีพื้นฐานที่แปลกใหม่อะไรมากแค่ไหน เป็นหนังแนวเล่นเกมสุดท้าแบบด่านต่อด่านไป โดยมีคอมพิวเตอร์ลึกลับเป็นผู้กำหนดปัญหา หนังใหม่ รวมทั้งผู้เล่นก็จำต้องเลือกเล่นเกมตามหน้าที่ของพวกเขา เพื่อผ่านเลเวลนั้นๆให้ต้องได้ เป็นไอเดียที่มิได้มีความสดใหม่ แต่ว่าก็สามารถสร้างเป็นกิมไม่กที่สนุกสนานออกมาไม่ยากเหมือนกัน
นี่เป็นผลงานการควบคุมหนังเรื่องแรกของ “โทบี้ มีรับประทานส์” ที่ถือได้ว่าหนังยาวเรื่องราวของเขา ภายหลังที่สั่งสมประสบการณ์จากกระบวนการทำหนังสั้นมาหลายเรื่อง เขายังร่วมเขียนบทหนังประเด็นนี้เองด้วย พิจารณาออกมาเป็นหนังดราม่าเขย่าขวัญที่สร้างด่านแต่ละด่านได้บังคับจิตใจผู้ชมได้โอกาสละเรื่อยการสอดแทรกข้อความสำคัญดราม่ารวมทั้งเงื่อนชีวิตเข้ามาเป็นส่วนประกอบเสริมถือได้ว่าจุดเสริมที่เรียกความพอใจเจริญ แล้วก็ยังเร่งเร้าอารมณ์ที่มีต่อตัวหนังได้ดิบได้ดีในระดับน่าพึงพอใจด้วย
เนื่องจากว่าเป็นหนังทุนต่ำ อาศัย เอซา บัตเตอร์ฟีลด์ มาขายแสดงนำ แต่ว่าแท้จริงเขาเป็นเพียงแค่บทสมทบตอนหนึ่งในเรื่องแค่นั้น ซึ่งก็อาจทำให้ผู้ชมผิดหวังได้เยอะพอสมควร ดูหนัง เนื่องจากว่าตัวความจริงๆเป็นจุดโฟกัสไปนางเอกเคย์ล่า ซึ่งเป็นคนเริ่มเล่นเกมนี้เพื่ออยากได้เงินมาช่วยแม่ที่มีอาการป่วยเป็นฐานะทางบ้านยากแค้น แถมยังมีชายหื่นที่คาดหวังเคลมคุณอยู่ตรงนั้นด้วย เอซา ก็เป็นเพื่อนชายที่ถูกใจคุณ และจากนั้นก็เป็นนักสร้างเกมอินดี้ด้วยตัวเอง ซึ่งตัวเรื่องปูรายละเอียดส่วนนี้ไว้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆ
และเข้าเรื่องหลักเล่นเกมในระยะเวลาเพียงไม่นาน ซึ่งตัวหนังก็ยาวเพียงแค่ 1 ชั่วโมง 18 นาที (ไม่รวมเครดิต) ซึ่งสั้นมากมายๆเรื่องราวก็เลยดำเนินไปออกจะไวตลอดด้วยการใช้ฉากสยองขวัญครั้งละเลเวลแบบเกม ซึ่งฉากกลุ่มนี้ก็มิได้ถึงกับสยดสยองอะไรมากมาย เน้นย้ำหวาดเสียวนิดๆเท่านั้น และก็ออกแนวหนังคัลท์ด้วยวิธีการทำฉากวิดีโอเกมล้วนๆแทนฉากสยดสยองของแท้ที่เกิดในช่วงเวลานั้น
หรือฉากสยองขวัญแบบแปลกๆให้นักแสดงเป็นเสมือนวิดีโอเกมดิจิตอล ซึ่งรู้เรื่องว่าอยากได้เซฟงบประมาณลดเงินลงทุนมากยิ่งกว่าก็เลยเลือกการผลิตฉากออกมาแนวๆนี้ ซึ่งมันไม่เวิร์คเท่าใดถ้าหากคนตั้งอกตั้งใจมาดูหนังสยองขวัญบางทีอาจจะงงเต็กๆแทนเพราะฉากเหล่านี้มันสยดสยองอีท่าไหน แต่ว่าหากคิดว่านี่เป็นหนังคัลท์ทุนต่ำมันก็เสนอไอเดียฉากสยองขวัญที่แปลกแปลกดีเช่นเดียวกัน ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต
เพียงแค่ฉากเปิดเรื่องของ ดูหนังฟรี Choose or Die ก็ถือเป็นการปูเรื่องเปิดเอาไว้ได้ค่อนข้างจะน่าดึงดูด เมื่อเอามาขยายความออกมาเกิดเรื่องราว ผ่านการแสดงของ “ไอโอล่า อีแวนส์” ผู้แสดงสาวคนใหม่ที่ได้โอกาสได้เล่นหนังหัวข้อนี้เป็นหนังเรื่องแรก ที่นับว่าคุณวางแบบผู้แสดงของตนเองออกมาได้ออกจะใช้ได้ สร้างมิติในค้างแรกเตอร์ของตนเองได้น่าดึงดูด เป็นศิลปินดาวรุ่งที่มีลีลาท่าทางการแสดงที่น่าประทับใจอยู่พอได้
ในเวลาที่ “เอซา บัตเตอร์ฟีลด์” ที่แน่ๆว่าพวกเรารู้จักเขาอย่างดีเยี่ยม เขานับว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่มาช่วยเติมเต็มให้กับหนังประเด็นนี้ หากว่าค้างแรกเตอร์ของเขาแทบไม่มีอะไรเลย เป็นเพียงแค่นักแสดงตามหลังผู้แสดงหลักธรรมดาๆแต่ว่าด้วยความเป็นมือโปรของเขาก็สามารถช่วยประคองหนังหัวข้อนี้เอาไว้ได้ตลอดทางเจริญ เมื่อทั้งสองจะต้องมาประจันหน้าเหตุการณ์เดียวกันในหนังประเด็นนี้ ถือได้ว่าเป็นการจับคู่ในเกมที่ทำให้ผู้ชมถูกตาติดหน้าจอเอาไว้ได้ดิบได้ดี
โปรดักชั่นวางแบบของหนังหัวข้อนี้ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบที่ออกจะทำเป็นดี nexobet mm ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์เกมกับด่านแต่ละด่านที่เป็นของกล้วยๆแม้กระนั้นซ่อนเร้นเอาไว้ด้วยลวดลายที่น่าดึงดูด ไม่ว่าจะออกมาในลักษณะของภาพกราฟฟิคและก็เสียงปลุกประสาทหู เป็นจุดที่ช่วยปลุกอารมณ์ให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่หนังประเด็นนี้ทำออกมาได้ออกจะใช้ได้อีกจุด
แน่ๆ เทมเพลตหลักตรงนี้เป็น “A Nightmare on Elm Street” ที่ช่ำชองของ Wes Craven และไม่ใช่เพียงแค่เนื่องจากมีโปสเตอร์อยู่บนฝาผนังในฉากเปิดและก็ Robert Englund เฟรดดี้เองก็เสนอความสามารถเกี่ยวกับด้านเสียงของเขา แต่ว่ายังคนึงถึงสมัยของภาพยนตร์สยองขวัญ “เทคโนโลยีที่น่าสะพรึงกลัว” ยกตัวอย่างเช่น “Ghost in the Machine”, “Shocker”, “Brainscan” หรือ “Dreamscape” ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือความสยองขวัญเหนือจริงชนิดนี้จะต้องใช้ลักษณะท่าทางของภาพอย่างยิ่ง แล้วก็ผู้กำกับโทบี้ มีคินส์
ก็มิได้พรีเซนเทชั่นหัวข้อนั้นมาที่โต๊ะนี้ ดูหนัง “Choose or Die” อยาก Craven หรือ Cronenberg วิชวลมาสเตอร์ซึ่งสามารถประดิษฐ์แนวความคิดที่ไม่มีสาระนี้ได้ รวมทั้งทำให้ภาพของพวกเขาดูก่อนวกับเป็นปฐม ขั้นต่ำก็จวบจนกระทั่งความประพฤติขั้นตอนสุดท้าย “เลือกหรือตาย” ล้มเหลวอย่างสม่ำเสมอสำหรับในการประพฤติตามคำสัญญาที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการจิตหลอนอย่างแท้จริง หากว่าไม่มีสิ่งนี้ โอกาสที่ลืมไม่ลงท้ายที่สุด