หนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร พาทย์ไทย
หนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร พาทย์ไทย ภายหลังจากเรื่องราว คลิ๊กปุ่ม’ ใน ‘Jurassic World 2: Fallen Kingdom’ (2018) หยิบเป็นข้อตกลงณแห่งการเริ่มต้นของบทสรุปไตรภาคไดโนเสาร์ครองโลกใน ‘Jurassic World Dominion’ (2022) หรือ ‘จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร’ ภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของไตรภาคจูราสสิค เวิลด์ (Jurassic World) และภาพยนตร์ระดับที่ 6 ในจักรวาลจูราสสิค นับตั้งแต่ที่ภาพยนตร์ภาคแรก ‘Jurassic Park’ (1993) ออกฉายเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วโน่น
มั่นใจว่าคนจำนวนไม่น้อยคงจะได้ดูกันมาแล้วสำหรับ บทสรุปสุดยิ่งใหญ่แห่งสมัยจูราสสิคอย่าง Jurassic World Dominion หรือ จูราสสิค เวิลด์: ทวงคืนอาณาจักร ที่ถูกให้เซ็ทให้เป็นภาคท้ายสุดใรไตรภาคที่ 2 คือว่า Jurassic World โดยมีไตรภาคแรกเป็น Jurassic Park
ถ้าผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยยังไม่รู้กัน Jurassic World Dominion เป็นภาคที่เหล่านักวิจารณ์และผู้ดูนั้นไม่ค่อยเอ็นหน้าจอยสักมากแค่ไหนเนื่องจากการบรรจุอะไรมาเยอะเกิน ทั้งผู้แสดง ทั้งเส้นเรื่องที่ไม่รู้ดีว่าจะให้ผู้ชมโฟกัสที่ไหน มันเป็นหลายประเด็น หลายๆภารกิจที่สร้างมาเพื่อที่จะให้เหล่าตัวละครมาบรรจบกันในตอนท้าย
ซึ่งไอ้การใส่ผู้แสดงมาเยอะๆนี่มันดาบสองคมอย่างชัดเจนด้วยเหตุว่าหากเกลื่ยบทชั่วร้าย หรือสร้างความผูกพันธ์ให้กับผู้ชมมิได้สภาวะมันก็จะออกมาแบบในภาคนี้ ซึ่งที่มันห่วยก็คือ ทั้งๆที่เป็นภาคท้ายที่สุดและได้เกิดการนำผู้แสดงในหลักใน 3 ภาคต้นฉบับ อย่าง
หนัง Jurassic World Dominion หรือชื่อไทยว่า จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร 9 เดือนมิถุนายนนี้ ตระเตรียมเจอกับบทสรุปอันยิ่งใหญ่แห่งยุคจูราสสิค ทุกท่านจะได้พบกับการผสมผสานครั้งแรกของคน 2 รุ่น คริส แพรตต์ และไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด เข้าร่วมงานกับ ลอร่า เดิร์น ผู้ชนะค่าตอบแทนออสการ์, เจฟฟ์ โกลด์บลูม และแซม นีล ใน Jurassic World Dominion จูราสสิค เวิลด์: ทวงคืนอาณาจักร
การผจญภัยครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ น่าตื่นเต้น เข้ากับสมัยสมัย เป็นการผจญภัยที่กินวงกว้างทั่วทั้งโลก หนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร นี่คือผลงานจากผู้สร้างสรรค์และผู้กำกับ Jurassic World โคลิน เทรเวอร์โรว์ Jurassic World Dominion จูราสสิค เวิลด์: ทวงคืนอาณาจักร คือสถานะการณ์ที่เกิดขึ้น 4 ปีหลังจากอิสลาร์ นูบลาร์ ถูกทำลาย ขณะนี้ ไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่—และออกล่า—ไปพร้อมกับมนุษย์ทั่วโลก
ความสมดุลอันเปราะบางนี้จะเปลี่ยนแปลงโฉมอนาคตและตัดสินว่า มนุษย์จะยังอาจจะเป็นผู้ล่าที่อยู่ชั้นเชิงปลายสุดบนดวงดาว และยังคงอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวจำนวนเยอะที่สุดในที่มาที่ไปศาสตร์ Jurassic World Dominion จากยูนิเวอร์แซล พิคเหน้าจอร์ส และแอมบลิน เอนเตอร์เทนเมนต์ ขับคลื่อนแฟรนไชส์ที่มีราคากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ให้ไปสู่ดินแดนที่ท้าทายและไม่มีผู้ใดคุ้นเคย
รีวิว Jurassic World Dominion
จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร หนังภาคต่อที่พอชมได้ และเน้นแต่แฟนเซอร์วิส บันทึกเรื่องราวรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม ถ้าบกพร่องประการใด หรือเปล่าประทับใจใครจำเป็นจะต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ เมื่อก่อนจะมาเริ่มต้นการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนเหนือกว่า
เป็นหนังเรื่องเดียวที่เข้าฉายในสัปดาห์นี้ คาดว่าด้วยความที่เป็นหนังฟอร์มใหญ่สุดๆ บวกกับเป็นภาคที่ออกมาเพื่อจะปิดไตภาคของแฟรนส์ไชส์ Jurassic ไตรภาคลำดับที่สองเลยส่งผลให้หนังเรื่องอื่นจำเป็นที่จะต้องหลีกทางให้ แต่เคงจะริงๆ หนังกลับทำออกมาได้ไม่ค่อยโอเค สำหรับแฟนๆ ของ Jurassic Park และ Jurassic World
ภาคนี้หยิบเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ จูราสสิคเวิลด์ โดยในภาคนี้เหตุการณ์ 4 ปีที่ผ่านมาจากเรื่องราวในภาคก่อน ที่ไดโนเสาร์ได้หลุดออกไปจากเกาะ และได้มาอยู่อาศัยเข้าร่วมกับมนุษย์ เปิดเรื่องมาจะให้พวกเราได้เห็นข้อขัดแย้งของการอยู่ร่วมกัน เนื่องจากว่าไดโนเสาร์บางสายพันธ์นั้นดุร้าย
และโจมตีมนุษย์ นำมาซึ่งการทำให้มีมนุษย์ถูกไดโนเสาร์สังหารอยู่บ่อยมาก ในแง่ของ โอเว่น (คริส แพรตต์), แคลร์ (ไบรซ์ ดัลลัส) และ ไมซี่ ล็อกวู้ด (อิซาเบลลา เซอร์มอน) เด็กสาวจากภาคที่แล้ว ซึ่งเธอถูกผลิตขึ้นมาจากวิทยาศาสตร์ เธอถูกหมายหัวและมีคนต้องการหยิบเธอไปทดลอง ส่งผลให้หมวดหมู่เขาทั้ง 3 คน
จำเป็นต้องหนีไปอาศัยกันอยู่ด้านในป่าที่ไกลห่าง จนมาวันหนึ่ง ไมซี่ ได้ถูกฝูงคนปริศนาจับตัวไป ทำให้ โอเว่น และแคลร์ ที่รักไมซี่เหมือนลูกสาวแท้ๆ ควรต้องออกเดินทางไปยังศูนย์ศึกษาค้นคว้าไดโนเสาร์ เพื่อจะไปช่วยไมซี่กลับมา ท้ายที่สุดแล้วสถานะการณ์จะเป็นอย่างไร หมวดหมู่เขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ทุกคนจะต้องไปรับดูด้วยตาตัวของเราเอง Jurassic World Dominion จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร วันนี้ทุกโรงรูปยนตร์
และ ไมซี่ ล็อกวู้ด (อิซาเบลลา เซอร์มอน) เด็กสาวจากภาคที่แล้ว ซึ่งเธอถูกสร้างขึ้นมาจากวิทยาศาสตร์ เธอถูกหมายหัวและมีคนต้องการจับเธอไปทดลอง ทำให้หมวดหมู่เขาทั้ง 3 คน จึงควรหนีไปอาศัยกันอยู่ด้านในป่าที่ห่างไกล จนมาวันหนึ่ง ไมซี่ ได้ถูกหมู่คนปัญหาหยิบตัวไป
นำมาซึ่งการทำให้ โอเว่น และแคลร์ ที่รักไมซี่เหมือนบุตรสาวแท้ๆ จึงควรออกสัญจรไปยังศูนย์ศึกษาค้นคว้าไดโนเสาร์ เพื่อไปช่วยไมซี่กลับมา ท้ายสุดแล้วเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร หมู่เขาควรต้องเหน้าจอกับอะไรบ้าง ทุกท่านจำเป็นต้องไปรับดูด้วยตาตัวเอง Jurassic World Dominion จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
ย้อนรำลึกความข้างหลังของไตรภาคแรกใน Jurassic world Dominion เอาไปเลย 8.5 คะแนน CG ไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ๆ ทำออกมาได้สวย สะพรึง สมจริง มากๆ พาน้องๆ หนูๆ ไปดู ไม่ผิดหวังแน่นอน เรามันเด็ก โตขึ้นมาพร้อมกับ จูราสสิค ปาร์คอ่ะนะ
หากพูดถึงไดโนเสาร์ จำความได้ พวกเราก็คำนึงถึงแต่ จูราสสิค ปาร์ค ไม่มีผู้ใด จะมาลบวิชาการสึกนั้นไปได้เลย ถึงแม้กระทั่งในภาคนี้ ก็ยังคงนำมาซึ่งการทำให้พวกเราได้กลิ่นอายของแฟรนไชส์ หนังตระกูลจูราสสิคได้ดิบได้ดีเยี่ยมยอดได้แก่เคย แถมภาคนี้ กลุ่มจัดเต็มด้วยการบรรจุไดโนเสาร์พันธุ์ไม่ซ้ำใครที่ชวนตื่นตา อาจความน่าสะพรุงไว้เต็ม อัพเดทข้อมูลกับบรรพชีวินวิทยาเรียบร้อย ถูกต้องตามตำราแน่นอน
แต่กว่าที่น้องบลู และเหล่าไดโนเสาร์จากยุคจูราสสิกจะได้กลับมาโลดแล่นกันในปีนี้ ตัวหนังก็ถือได้ว่าจะต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากพอสมควร ทั้งกระแสจากภาคที่แล้ว ‘Jurassic World 2: Fallen Kingdom’ (2018) ผลงานการกำกับของ ‘เจ. เอ. บาโยนา’ (J. A. Bayona) ที่ได้คะแนนมะเขือเน่าจากเว็บ Rotten Tomatoes
แค่เพียง 47% ต่ำที่สุดในบรรดาแฟรนไชส์จูราสสิก พาร์ก แม้จะทำค่าตอบแทนค่อนข้างดี แต่พอออกทรงลูกผีลูกคนขนาดนี้ คงารย์ปู่ ‘สตีเวน สปีลเบิร์ก’ (Steven Spielberg) Executive Producer เจ้าของแฟรนไชส์ เลยเรียกตัว ‘โคลิน เทรวอร์โรว์’ (Colin Trevorrow) ผู้กำกับจาก ‘Jurassic World’ (2015) กลับมากำกับในภาคนี้อีกสักที
นับเป็นความพากเพียรเฮือกสุดท้ายหลังจากสถานะการณ์ ในฉากจบ Jurassic World 2 Fallen Kingdom (2018) ถือเป็นข้อตกลงณแห่งการเริ่มตั้งแต่ต้นของผลสรุปไตรภาคไดโนเสาร์ครองโลกใน Jurassic World Dominion (2022) หรือ ‘จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร’ ภาพยนตร์เรื่องท้ายที่สุด(เหลือเปล่า) ของไตรภาค Jurassic World และรูปยนตร์ลำดับที่ 6 ในจักรวาลจูราสสิค นับตั้งแต่ที่ภาพยนตร์ภาคแรก ‘Jurassic Park’ (1993) ออกฉายเมื่อเกือบจะ 30 ปี
แต่กว่าที่น้องบลู(ไดโนเสาร์มีปีก) และเหล่าพองเพื่อที่จะนไดโนเสาร์จากยุคจูราสสิกจะได้กลับมาโลดแล่นกันในปีนี้ ตัวหนังก็ถือได้ว่าจำเป็นจะต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากพอเหมาะสม ทั้งกระแสจากภาคที่แล้ว Jurassic World 2 Fallen Kingdom (2018) ผลงานการกำกับของ J. A. Bayona ที่ได้คะแนนมะเขือเน่าจากเว็บมะเขือเน่า Rotten Tomatoes เพียงแค่ 47% ต่ำที่สุดในบรรดาแฟรนไชส์ Jurassic Park แม้จะทำค่าตอบแทนค่อนข้างจะดี
แม้กระนั้นแฟนมาเนียที่ยังบูชาใน ภาคเก่า ๆ ก็ออกมาถล่มสะเละแต่พอออกทรงลูกผีลูกคนขนาดนี้ Steven Spielberg Executive Producer เจ้าของแฟรนไชส์ เลยเรียกตัว Colin Trevorrow ผู้กำกับจาก ‘Jurassic World’ (2015) กลับมากำกับในภาคนี้อีกสักที และเขาก็ทำออกมาได้สมกฏเกณฑ์ แต่ยังว้าวเท่าภาคเก่า
Jurassic world Dominion
ทวงคืนอาณาจักร เอาไปเลย 8.5 คะแนน แค่เปิดเรื่องมาก็อบอุ่บ หวนรำลึกไตรภาคแรก หนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร สมัย 90’s บวกโอกาส Jump scared พอดีชวนระทึก CG ไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ สวย สะพรึง สมจริงมากๆ 8 มิ.ย. ทุกโรงรูปยนตร์ Major Cineplex
ภาคนี้ถือเป็นภาคท้ายที่สุดของแฟรนไชส์ จูราสสิคเวิลด์ โดยในภาคนี้สถานะการณ์ 4 ปีที่ผ่านมาจากสถานะการณ์ในภาคก่อน ที่ไดโนเสาร์ได้หลุดออกจากเกาะ และได้มาอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ เปิดเรื่องมาจะให้พวกเราได้เห็นได้ชัดข้อขัดแย้งของการอยู่ด้วยกัน เนื่องจากว่าไดโนเสาร์บางสายพันธ์นั้นดุร้าย และโจมตีมนุษย์ ทำให้มีมนุษย์ถูกไดโนเสาร์สังหารอยู่บ่อยครั้ง ในแง่ของ โอเว่น (คริส แพรตต์), แคลร์ (ไบรซ์ ดัลลัส)
มาเริ่มต้นรีวิวกันก่อนได้เปรียบกว่า ส่วนตัวผมเดินเข้าโรงไปด้วยความไม่คาดหวังอะไรเลย เหตุเพราะชมจากคะแนนก็มีทั้งคนที่ชอบและเกลียด ผมเลยอยากเปิดใจให้สบายๆ ไม่จำเป็นจะต้องอคติว่ามันจะห่วย หรือคาดหมายว่ามันจะออกมาดี และวิชาความรู้สึกภายหลังชมจบ ผมมีความรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ห่วยซะทีเดียว และคงมีหลายๆผู้คนที่ถูกใจด้วย คืออยู่ด้านในลำดับชั้นกลางๆ ซึ่งบอกตามตรงมันก็ค่อนข้างหน้าเสียดาย เพราะภาค 2 จบไว้แบบปลายเปิดพอสมควร
มีมุมมองมากมายที่ให้เล่นได้ แต่หนังดันจุดโฟกัสไม่ถูกจุด มาเริ่มต้นที่เรื่องบทกันก่อนเลย ผมมองว่าภาคนี้บทเยอะมากและจุดโฟกัสไปไม่ถูกทางมากๆ ดันไปมุ่งเน้นที่เรื่องตั๊กแตนบุกโลกซะงั้น มันไม่ได้ห่วยแตกมากหรอกนะ แค่มันไม่ค่อยจะเกี่ยวกับไดโนเสาร์เท่าใด เนื่องจากผู้คนที่ไปชมเนื่องจากว่าต้องการชมไดโนเสาร์ ประเด็นนี้ถือได้ว่าพลาดมากๆ และไปให้ความสำคัญกับเรื่องตั๊กแตนมากที่สุดด้วย
เลยอาจจะส่งผลให้หลายๆคนไม่ค่อยชอบเท่าไร อีกเรื่องที่ไม่ค่อยเวิร์ค คือการเกลี่ยบท คือมันโฟกัสไปที่นักแสดงหลายตัวมาก ตัดไปตัดมา ให้ความใส่ใจเท่าๆกัน หนังมันเลยดูแบบราบไปนิด และให้อารมณ์เหมือนดูซีรีส์มากยิ่งกว่าหนัง ในระยะแรกๆนะ มาคิดว่าเป็นหนังคือตอนท้ายๆเลย ที่ทุกท่านมารวมกันแล้ว