รวมหนัง ไซอิ๋ว ทุกภาค ภาพยนตร์ประเด็นนี้ติดตามเรื่องราวของ Xuanzang (แสดงโดย Wen Zhang) นักล่าปีศาจร้ายที่มองไม่รู้เดียงสาแล้วก็มองโลกในแง่ดีตั้งใจที่จะกำจัดโลกที่วิญญาณโหดเหี้ยมรวมทั้งภูติผีปีศาจ ในภารกิจของเขา เขาได้เจอกับ Miss Duan (แสดงโดย Shu Qi) นักสู้ผู้ซ่าและก็กล้าพร้อมด้วยซาตานส่วนตัวของคุณที่จะปราบ พวกเขาด้วยกันเริ่มเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายเพื่อค้นหาราชาลิงในตำนาน (ซุนหงอคงจะ) รวมทั้งสิ่งมีชีวิตในตำนานอื่นๆเพื่อบากบั่นควบคุมพลังและก็กำจัดความโหดเหี้ยมของพวกเขา
ตลอดการเสี่ยงอันตรายของพวกเขา ความศรัทธาที่ไม่ยอมแพ้ของ Xuanzang ในพลังที่ความรักและก็ความเข้าใจจะต้องพบเจอกับความท้าเมื่อพวกเขาเจอหน้ากับอสุรกายที่ตลกและก็คิดคด หนึ่งในนั้นเป็น Pig Demon ที่น่ารักน่าเอ็นดูรวมทั้งซน (แสดงโดย Huang Bo) ซึ่งแปลงเป็นผู้ส่งเสริมที่ไม่น่าจะเป็นได้ในภารกิจของพวกเขา
ดูหนังออนไลน์ รวมหนัง ไซอิ๋ว ทุกภาค
The Monkey King เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีของจีนปี 2014 ควบคุมโดย Cheang Pou-soi ที่ผลิตจากนิยายจีนคลาสสิกเรื่อง Journey to the West มหากาพย์ภาพยนตร์ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงประเด็นนี้ทำให้ผู้แสดงอันเป็นหวานใจของราชาลิง ซุนหงออาจ มีชีวิตขึ้นมา ในตอนที่เขาเริ่มการเดินทางอันอัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์คาถา การต่อสู้ และก็การศึกษาและทำการค้นพบตนเอง
ภาพยนตร์หัวข้อนี้ติดตามเรื่องราวของซุนหงออาจ (รับบทบาทโดยดอนนี่ เยน) ลิงที่ทรงอำนาจรวมทั้งดื้อที่เกิดขึ้นจากหินซึ่งได้รับความรู้ความเข้าใจอันเกินจริงภายหลังได้รับไม้เท้า Ruyi Jingu Bang ในตำนาน ถึงแม้ว่าเขาจะต้านทานอำนาจจากสรวงสวรรค์ในตอนแรก แต่ว่าสุดท้ายซุนหงอคงจะก็แปลงเป็นผู้รักษาผู้จงรักภักดีของ Tang Monk (สวมบทบาทโดย Xuan Huang) พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางไปแสวงบุญเพื่อรับคู่มืออันศักดิ์สิทธิ์
เวลาที่กรุ๊ปจำเป็นต้องพบเจอกับสิ่งมีชีวิตในตำนาน ซาตาน รวมหนัง ไซอิ๋ว ทุกภาค และก็ความท้าต่างๆตลอดการเดินทาง การเจริญเติบโตรวมทั้งความเคลื่อนไหวของ Sun Wukong จากนักมายากลที่กบฏเปลี่ยนเป็นวีรบุรุษผู้สละก็เผยออกมา ภาพยนตร์ประเด็นนี้ตรวจสอบธีมของมิตรภาพ ชะตากรรม แล้วก็การต่อสู้ระหว่างความดีเลิศแล้วก็ความชั่ว
ธีมของความเด็ดเดี่ยวรวมทั้งการศึกษาและทำการค้นพบตนเอง: ราชาลิงเจาะลึกธีมต่างๆดังเช่น การเดินทางของวีรบุรุษ: ภาพยนตร์ประเด็นนี้ติดตามทางของซุนหงออาจจะตั้งแต่ลิงโม้รวมทั้งเดามิได้ไปจนกระทั่งวีรบุรุษในตำนานที่ใช้พลังของเขาเพื่อคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่าการศึกษาและทำการค้นพบตัวเอง: การเดินทางของซุนหงอคงจะเกี่ยวโยงกับการศึกษาค้นพบตัวตนรวมทั้งสมรรถนะที่จริงจริงของเขา เวลาที่เขาทำความเข้าใจที่จะควบคุมพลังของเขาอย่างมีความรับผิดชอบ
Your Christmas or Mine 2
Your Christmas or Mine 2 เล่าราวสม่ำเสมอจากภาคก่อน เมื่อ เจมส์ กับ เฮย์ลี ได้ชูครอบครัวไปพักช่วงปลายปีที่สกีโรงแรมหรูหราในแนวเขาแอลป์ แต่ว่าเนื่องจากความบกพร่องของการบุ๊กกิ้งบ้านพักโดยบิดาของเฮย์ลี ทำให้อีกทั้ง 2 ครอบครัวไปโผล่อยู่ที่จุดหมายแตกต่างกันคนละที่ เปลี่ยนเป็นการสับเปลี่ยนวันคริสต์มาสของพวกเขาอีกที ทำให้ เจมส์ กับ เฮย์ลี จำต้องประจันหน้ากับบทดสอบความเกี่ยวข้องอีกที ท่ามกลางสายตาของคนภายในครอบครัว
โดยในหนังภาคนี้ก็ยังคงได้โอกาสมผู้ผลิตชุดเดิม ไม่ว่าจะเป็น “จิม โอ’ฮานลอน” ที่กลับมารับหน้าที่ควบคุมหนังอีกที จากบทหนังของ “ทอม แพร์รี” ที่เอาจริงเอาจังๆแม้จะว่ากันตามจริง เมื่อครั้งใน Your Christmas or Mine? เมื่อปีก่อน ก็เป็นหนังรอมคอมกลิ่นเทศกาลที่เต็มไปด้วยสูตรสำเร็จที่พวกเราบางครั้งอาจจะยังรู้สึกเฉยๆเป็นเสียโดยมาก หนังบางครั้งอาจจะสวยดีแต่ก็ยังไม่มีอะไรให้น่าจำ เอาจริงเอาจังๆก็แทบจำไม่ได้แล้วด้วยว่าภาคแรกคืออะไร
พอเพียงมาถึง Your Christmas or Mine 2 รวมหนัง ไซอิ๋ว ทุกภาค ก็ยังมากับแพ็กสูตรสำเร็จแบบรู้จักดีดังเช่นว่าเดิม มันเป็นหนังที่มีพล็อตตามตลาดทั่วๆไป เป็นหนังที่มองง่ายและก็ย่อยได้อย่างไม่ยากเย็นอย่างเดียวกัน เสมือนเป็นหนังที่ควรจะมีไว้สำหรับในตอนเทศกาลวันหยุดท้ายปีอะไรอย่างงี้ ขนาดรวมทั้งประสิทธิภาพของหนังก็ยังรักษามาตรฐานเดิมเอาไว้ได้ดิบได้ดี มีกลิ่นความเป็นหนังฉายโรงได้นิดๆแต่ว่าจำนวนมากก็เหมาะสมกับการเป็นหนังหน้าจอเล็กมากยิ่งกว่า
บทหนังก็เกือบจะไม่มีอะไรออกนอกกรอบเลย Your Christmas or Mine 2 ที่เป็นการถือเอาสูตรเดิมจากภาคแรกมาเขย่าออกมาเป็นราวกับป็อปคอร์นรสชาติอื่นที่มิได้เป็นรสแปลกใหม่อะไร จังหวะต่างๆในหนังแทบมิได้เกินความคาดหวัง มันเป็นการจับวางเอาไว้แบบลงล็อกเป๊ะๆซ้ำยังเต็มไปด้วยมุกเสียดสีสำเนียงและก็ความเป็นแคว้นของแต่ละถิ่น ที่เป็นอะไรที่ออกจะเชยพอได้เลยจ๊ะในยุคนี้
The Family Plan
The Family Plan กล่าวถึงชีวิตของ ดินแดน พ่อบ้านปกติที่ดำเนินชีวิตแสนเรียบง่ายอยู่ในเขตปริมณฑลของเมืองนิวยอร์ก แม้กระนั้นเมื่ออดีตกาลอันแสนทารุณไร้มนุษยธรรมของเขาย้อนกลับมาเอาคืนอีกที ทำให้เขาต้องหาแนวทางที่จะคุ้มครองปกป้องครอบครัวที่เขารักที่สุด โดยที่พวกเขาก็ไม่รู้จักมาก่อนเกี่ยวกับอดีตกาลอันลึกลับของผู้นำครอบครัว ที่กาลครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นมือสังหารนิรนามตัวท็อปของแวดวง!
เอาจริงเอาจังๆมันก็เป็นหนังที่มองได้เพลิดเพลินดี ในทางการหาคอนเทนท์เบิกบานทั่วๆไป หนังก็ยังเต็มไปด้วยท่าทางที่สร้างความเอ็นหน้าจอยให้กับผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าถ้าหากเป็นในทางวิภาควิจารณ์หนังอย่างไม่อ้อมค้อมแล้วละก็ มันบางครั้งก็อาจจะไม่ใช่การเสพสุขที่ดีสักเท่าไหร่นัก เพราะเหตุว่า The Family Plan ก็ยังดำเนินสะกดรอยหนังแอคชันครอบห้องครัวที่มีมาตลอดในตอน 20-30 ปีที่ล่วงเลยไป ทุกจุดและก็ทุกก้าวเต็มไปด้วยสูตรสำเร็จแบบสำเร็จรูปแบบจับวางเอาไว้
โดยหนังได้ผู้กำกับจากแวดวงโทรทัศน์ “ไซมอน เคแลน โจนส์” มารับหน้าที่ดูแลหนังหัวข้อนี้ โดยเหตุนี้สเกลงานสร้างของหนังหัวข้อนี้มันก็จะออกมาใสๆคลุ้งๆแบบตามสไตล์หนังที่สร้างออกมาจากทางโทรทัศน์ราวๆนั้น ส่วนประกอบงานสร้างมิได้มีอะไรที่แปลกใหม่อะไรก็แล้วแต่ก็ราวหนังครอบครัวกลิ่นดิสนีย์นิดๆแม้กระนั้นก็มิได้ใสเด่นชัดเกินความจำเป็น แต่ว่าก็ยังคงในเรตที่เด็กมองได้คนแก่มองเพลิดเพลินอยู่
บทหนังได้ “เดวิด ค็อกเกอาลล์” จาก Orphan: First Kill มาปั้นเรื่องราวให้ แน่ๆว่าประสิทธิภาพของบทหนังก็คงมิได้เพอร์เฟ็คอะไรนัก หากมองผลงานก่อนๆของนักประพันธ์รายนี้ก็จะทราบว่าเขาเขียนบทหนังในสไตล์ที่ค่อนข้างจะเซฟโซนและไม่ค่อยสร้างความแปลกใหม่ออกมาให้กับผู้ชมสักเท่าไหร่ เหมือนกัน The Family Plan ก็จัดไว้อยู่ในหมวดพื้นที่ปลอดภัย หนังไม่ค่อยเดินออกนอกกรอบสักเท่าไหร่
Chicken Run: Dawn of the Nugget
Chicken Run: Dawn of the Nugget เล่าราวภายหลังที่แอบหนีออกมาจากฟาร์มไก่สุดหฤโหดในคราวนี้ จินพบร์ กับ ร็อกกี้ และพรรคพวกเครือญาติไก่ได้ย้ายถิ่นและก็หลีกตัวดำเนินชีวิตเฉยๆอยู่บนเกาะกึ่งกลางน้ำที่แสนสงบ แม้กระนั้นเมื่อให้กำเนิด มอลลี บุตรสาวที่ใฝ่ฝันต้องการเจอกับอิสระ ภาพจำในสมัยก่อนกลับมาเสมือนเดจาวูอีกที เมื่อพวกเขาจำต้องเจอหน้ากับโรงงานผลิตนักเก็ตไก่ที่กำลังรุกรามและก็ดัดแปลงชีวิตไก่ตัวเป็นๆ
อาร์ดแมน แอนิเมชัน ยังคงเสน่ห์การผลิตหนังสไตล์สต็อปโมชันจากดินน้ำมันปั้นที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาอีกรอบ แต่ว่าปัจจัยที่การผลิตหนังสไตล์นี้นานๆครั้งจะทำออกมาสักหนึ่งครั้ง เนื่องจากว่าวัตถุการปั้นนับวันยิ่งหาได้ยากไปกันใหญ่ สำหรับภาคต่อประเด็นนี้ถึงจะเป็นองค์ประกอบเรื่องราวต่อจากเดิม แม้กระนั้นคณะทำงานผู้ผลิตส่วนมากก็แปรไปเกือบจะหมด เนื่องจากวันตอนที่ผ่านไปนานแล้วนั่นเอง
“แซม เฟล” จากหนังแอนิเมชัน ParaNorman รวมหนัง ไซอิ๋ว ทุกภาค มารับหน้าที่ดูแลงานสร้างภาพยนตร์ประเด็นนี้แทน แน่ๆว่าเขามีประสบการณ์สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันสไตล์สต็อปโมชันมาก่อนแล้วอยู่หลายเรื่อง ด้วยเหตุผลดังกล่าวเมื่อมาจับงานแต่งเรื่องนี้ก็เลยไม่ใช่เรื่องยาก เขาทำหนังออกมาให้กับช่วงก้าวหน้า ในเวลาเดียวกันก็ยังคงเอกลักษณ์และก็เสน่ห์ความเป็น Chicken Run ต้นฉบับเอาไว้ได้ออกจะเหมาะเหม็ง
ดังนี้ Chicken Run: Dawn of the Nugget ยังคงได้ “แคปรี่ เคิร์กแพทริก” กับ “จอห์น โอ’ฟาร์เรลล์” ผู้เขียนจากหนังต้นฉบับกลับมาร่วมกลุ่มอีกรอบ ร่วมด้วยสาวผู้เขียนบทแบบใหม่ “เรเชล ทันที่นาร์ด” ที่มาช่วยปลุกปั้นเรื่องราวความสนุกสนานอีกที ถึงโดยภาพรวมแล้ว บทหนังจะยังมิได้มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ หนังยังคงใช้สูตรสำเร็จแบบเก่าๆที่แต่งความขำขันได้ดิบได้ดีด้วยเหตุว่ามุกขำขันสไตล์บริติชที่รู้จักนั่นเอง
The Beekeeper นรกเรียกพ่อ
The Beekeeper เกิดเรื่องราวของ อดัม เคลย์ ชายวัยเกษียณอายุที่ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายโดยการเลี้ยงผึ้ง ดูหนัง netflix แม้กระนั้นแล้วความสงบสุขของเขาก็ถูกทำลาย เมื่อป้าข้างบ้านที่เขาไว้วางใจเพียงแต่อย่างเดียวได้กระทำตายตนเองลง เพราะว่ากลายเป็นเหยื่อของกลุ่มคอลเซนเตอร์ต้มตุ๋น จากชายเลี้ยงผึ้งปกติ อดัมจะต้องสวมตัวตนในสมัยก่อนของเขาอีกที ในชื่อ บีคีปเปอร์ เพื่อทำภารกิจล่าโกรธแค้นส่วนตัวแล้วก็แฉหน่วยงานลับ งานนี้จัดเต็มทุกลูกกระสุน รวมมิตรทุกแรงชน ไร้ความปรานีกระทั่งจะลากคอคนที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังกลุ่มเลวนี้ให้ได้
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของอีกหนึ่งผู้กำกับขาบู๊ประจำแวดวง “เดวิด เอเยอร์” ภายหลังที่ยุ่งๆไปจับจับทำหน้าฮีโรมาได้อยู่นับเป็นเวลาหลายปี เขาก็เพียรพยายามหาทางกลับมาสู่ทางหนังแอคชันทริลเลอร์แนวที่เคยชินอีกรอบ ผลงานเรื่องก่อนหน้า อย่าง The Tax Collector ก็จะผิดจริตนักวิพากษ์วิจารณ์เท่าไร แม้กระนั้นเมื่อมาแก้ตัวใน The Beekeeper หัวข้อนี้ จำเป็นต้องบอกเลยว่า เดวิด เอเยอร์ คัมแบ็กกลับมาแล้ว เขาหาทางกลับมาได้จริงๆ
แม้ว่าจะเป็นการคัมแบ็กจากหลุมเดิมที่ฝังเขา แม้กระนั้นก็ใช่ว่า The Beekeeper จะเป็นหนังที่เพอร์เฟ็คอะไร เนื่องจากว่านี่เป็นการจับวางสูตรสำเร็จของหนังบู๊ทรงเดิมๆที่แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย โทนหนังก็ยังมาพร้อมกับสไตล์เอาจริงเอาจัง ไม่ค่อยพูดต่อยหนัง ตามแบบอย่างหนังของ “เจสัน สเตแธม” ธรรมดา ช่วงเวลาที่บทหนังก็ตื้นไปหมด ทายใจทางได้ไม่ยาก และก็กลิ่นค่อนข้างจะไปในทางหนังเกรดบีเสียด้วยซ้ำ
The Beekeeper ได้ “เคิร์ธ วิมเมอร์” มือเขียนบทหนังแอคชันที่แทบได้มะเขือเทศเน่าแทบทุกผลงานบน Rotten Tomotoes แน่ๆว่าสไตล์งานปั้นเรื่องของเขาค่อนจะปกติและไม่มีแนวความคิดประดิษฐ์ที่แปลกใหม่เท่าไร แม้กระนั้นขั้นต่ำๆก็ที่หนังถือเอาภัยจากกลุ่มคอลเซ็นเตอร์มาปูเรื่องรวมทั้งเอามาเป็นกางล็กกาวน์นั้น ก็เป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมมีส่วนร่วมและก็มีความรู้สึกว่าเป็นภัยที่ใกล้ตัวเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังมันยังเป็นเหตุการณ์ที่อาจจะมีการเกิดขึ้นจริงกับผู้ใดก็ได้
